1. ข้อมูลทั่วไป
ถิ่นอาศัย ภาคตะวันออก
แหล่งที่พบ จังหวัดจันทบุรี
2. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น ลำต้นเทียมสูงประมาณ 2.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นเทียมประมาณ 15 เซนติเมตร กาบลำต้นเทียมด้านนอกสีเขียว มีกลีบสีเขียวอมชมพู มีประดำปานกลาง มีไขปานกลาง กาบลำต้นด้านในมีสีชมพู
ใบ ก้านใบสีเขียว ไม่มีครีบ ก้านใบเปิดเล็กน้อย เส้นกลางใบสีเขียว
ปลี หรือดอก ก้านดอกมีขนเล็กน้อย ปลีมีใบประดับรูปไข่ยาว ปลายแหลม และม้วนขึ้น ด้านบนสีม่วงอมเทา ไม่มีนวล ด้านล่างสีแดง การเรียงของใบประดับไม่ซ้อนกันมาก
ผล เครือหนึ่งมีประมาณ 7 หวี หวีหนึ่งมี 10-16 ผล ผลสุกมีสีเหลืองอมม่วง รสชาติหวาน ไม่มีเมล็ด
3. การปลูกเลี้ยงและการใช้ประโยชน์
การปลูกเลี้ยง ขุดหลุมขนาด 30x30x30 เซนติเมตร วางหน่อลงปลูกกลางหลุม กลบดินโดยรอบให้แน่น หลังปลูก 1 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 จากนั้นให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 สลับกับปุ๋ยอินทรีย์ทุก 3 เดือน
การใช้ประโยชน์ ผลสุกรับประทานเป็นผลไม้ รสชาติหวานหอม
ถิ่นอาศัย ภาคตะวันออก
แหล่งที่พบ จังหวัดจันทบุรี
2. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น ลำต้นเทียมสูงประมาณ 2.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นเทียมประมาณ 15 เซนติเมตร กาบลำต้นเทียมด้านนอกสีเขียว มีกลีบสีเขียวอมชมพู มีประดำปานกลาง มีไขปานกลาง กาบลำต้นด้านในมีสีชมพู
ใบ ก้านใบสีเขียว ไม่มีครีบ ก้านใบเปิดเล็กน้อย เส้นกลางใบสีเขียว
ปลี หรือดอก ก้านดอกมีขนเล็กน้อย ปลีมีใบประดับรูปไข่ยาว ปลายแหลม และม้วนขึ้น ด้านบนสีม่วงอมเทา ไม่มีนวล ด้านล่างสีแดง การเรียงของใบประดับไม่ซ้อนกันมาก
ผล เครือหนึ่งมีประมาณ 7 หวี หวีหนึ่งมี 10-16 ผล ผลสุกมีสีเหลืองอมม่วง รสชาติหวาน ไม่มีเมล็ด
3. การปลูกเลี้ยงและการใช้ประโยชน์
การปลูกเลี้ยง ขุดหลุมขนาด 30x30x30 เซนติเมตร วางหน่อลงปลูกกลางหลุม กลบดินโดยรอบให้แน่น หลังปลูก 1 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 จากนั้นให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 สลับกับปุ๋ยอินทรีย์ทุก 3 เดือน
การใช้ประโยชน์ ผลสุกรับประทานเป็นผลไม้ รสชาติหวานหอม