1. ข้อมูลทั่วไป
ถิ่นอาศัย ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
แหล่งที่พบ จังหวัดอุบลราชธานี
2. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น คล้ายกล้วยนาก ลำต้นเทียมสูง 2.5-3.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 15 เซนติเมตร กาบลำต้นเทียมด้านนอกมีสีเขียวปนแดง มีปื้นดำมาก ด้านในสีชมพูอมแดง มีครีบ
ใบ เส้นกลางใบสีชมพูปนแดง ก้านใบกางแกด้านข้าง แผ่นใบสีเขียวมีสีแดงเรื่อๆ
ปลี หรือดอก ก้านช่อดอกสีแดง มีขน ใบประดับรูปไข่ค่อนข้างยาว ม้วนขึ้น ปลายแหลม ด้านบนสีแดงม่วง ด้านล่างสีแดงซีด
ผล มีจำนวนผลและจำนวนหวีมากกว่ากล้วยนาก ผลขนาดเล็กกว่ากล้วยนากขนาดประมาณกล้วยน้ำว้า เครือหนึ่งมีน้อยกว่า 7 หวี หวีหนึ่งมี 12-14 ผล ผลสีเขียวอมม่วงเข้ม เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงเข้มหรือคล้ำกว่ากล้วยนาก ก้านผลสั้น เนื้อสีเหลืองอมส้ม กลิ่นหอม รสชาติหวาน ไม่มีเมล็ด
3. การปลูกเลี้ยงและการใช้ประโยชน์
การปลูกเลี้ยง ขุดหลุมขนาด 30x30x30 เซนติเมตร วางหน่อลงปลูกกลางหลุม กลบดินโดยรอบให้แน่น หลังปลูก 1 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 จากนั้นให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 สลับกับปุ๋ยอินทรีย์ทุก 3 เดือน
การใช้ประโยชน์ รับประทานผล
ถิ่นอาศัย ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
แหล่งที่พบ จังหวัดอุบลราชธานี
2. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น คล้ายกล้วยนาก ลำต้นเทียมสูง 2.5-3.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 15 เซนติเมตร กาบลำต้นเทียมด้านนอกมีสีเขียวปนแดง มีปื้นดำมาก ด้านในสีชมพูอมแดง มีครีบ
ใบ เส้นกลางใบสีชมพูปนแดง ก้านใบกางแกด้านข้าง แผ่นใบสีเขียวมีสีแดงเรื่อๆ
ปลี หรือดอก ก้านช่อดอกสีแดง มีขน ใบประดับรูปไข่ค่อนข้างยาว ม้วนขึ้น ปลายแหลม ด้านบนสีแดงม่วง ด้านล่างสีแดงซีด
ผล มีจำนวนผลและจำนวนหวีมากกว่ากล้วยนาก ผลขนาดเล็กกว่ากล้วยนากขนาดประมาณกล้วยน้ำว้า เครือหนึ่งมีน้อยกว่า 7 หวี หวีหนึ่งมี 12-14 ผล ผลสีเขียวอมม่วงเข้ม เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงเข้มหรือคล้ำกว่ากล้วยนาก ก้านผลสั้น เนื้อสีเหลืองอมส้ม กลิ่นหอม รสชาติหวาน ไม่มีเมล็ด
3. การปลูกเลี้ยงและการใช้ประโยชน์
การปลูกเลี้ยง ขุดหลุมขนาด 30x30x30 เซนติเมตร วางหน่อลงปลูกกลางหลุม กลบดินโดยรอบให้แน่น หลังปลูก 1 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 จากนั้นให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 สลับกับปุ๋ยอินทรีย์ทุก 3 เดือน
การใช้ประโยชน์ รับประทานผล