1. ข้อมูลทั่วไป
ถิ่นอาศัย ภาคใต้ และจังหวัดชายแดนไทย – พม่า
แหล่งที่พบ จังหวัดนครศรีธรรมราช กาญจนบุรี ตาก
2. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น ลำต้นเทียมสูงประมาณ 2.5-3.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15 เซนติเมตร กาบลำต้นด้านนอกสีเขียวปนชมพูแดง มีปื้นสีดำบ้าง ด้านในสีชมพูอมแดง
ใบ มีครีบ เส้นกลางใบสีชมพูปนแดง แผ่นใบสีเขียวมีสีแดงเรื่อๆก้านช่อดอกสีแดง มีขน ใบประดับรูปไข่ค่อนข้างยาว ปลายแหลมและม้วนขึ้น ด้านบนสีแดงอมม่วง ด้านล่างสีแดงซีด
ปลี หรือดอก ปลีรูปไข่ ปลายแหลม ปลีมีสีแดงอมม่วง กาบปลีเปิดม้วนงอขึ้น
ผล เครือหนึ่งมี 2-3 หวี หวีหนึ่งมี 6-9 ผล ผลขนาดใหญ่กว่ากล้วยหักมุก มีความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร กว้างประมาณ 5 เซนติเมตร มีสีเขียวอมม่วง เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีแดงถึงแดงอมม่วงเข้ม ก้านผลสั้น เนื้อสีเหลืองอมส้ม กลิ่นหอมเย็น เนื้อนิ่มละเอียด รสชาติหวาน ไม่มีเมล็ด
3. การปลูกเลี้ยงและการใช้ประโยชน์
การปลูกเลี้ยง ขุดหลุมขนาด 30x30x30 เซนติเมตร วางหน่อลงปลูกกลางหลุม กลบดินโดยรอบให้แน่น หลังปลูก 1 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 จากนั้นให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 สลับกับปุ๋ยอินทรีย์ทุก 3 เดือน
การใช้ประโยชน์ รับประทานผล
ถิ่นอาศัย ภาคใต้ และจังหวัดชายแดนไทย – พม่า
แหล่งที่พบ จังหวัดนครศรีธรรมราช กาญจนบุรี ตาก
2. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น ลำต้นเทียมสูงประมาณ 2.5-3.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15 เซนติเมตร กาบลำต้นด้านนอกสีเขียวปนชมพูแดง มีปื้นสีดำบ้าง ด้านในสีชมพูอมแดง
ใบ มีครีบ เส้นกลางใบสีชมพูปนแดง แผ่นใบสีเขียวมีสีแดงเรื่อๆก้านช่อดอกสีแดง มีขน ใบประดับรูปไข่ค่อนข้างยาว ปลายแหลมและม้วนขึ้น ด้านบนสีแดงอมม่วง ด้านล่างสีแดงซีด
ปลี หรือดอก ปลีรูปไข่ ปลายแหลม ปลีมีสีแดงอมม่วง กาบปลีเปิดม้วนงอขึ้น
ผล เครือหนึ่งมี 2-3 หวี หวีหนึ่งมี 6-9 ผล ผลขนาดใหญ่กว่ากล้วยหักมุก มีความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร กว้างประมาณ 5 เซนติเมตร มีสีเขียวอมม่วง เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีแดงถึงแดงอมม่วงเข้ม ก้านผลสั้น เนื้อสีเหลืองอมส้ม กลิ่นหอมเย็น เนื้อนิ่มละเอียด รสชาติหวาน ไม่มีเมล็ด
3. การปลูกเลี้ยงและการใช้ประโยชน์
การปลูกเลี้ยง ขุดหลุมขนาด 30x30x30 เซนติเมตร วางหน่อลงปลูกกลางหลุม กลบดินโดยรอบให้แน่น หลังปลูก 1 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 จากนั้นให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 สลับกับปุ๋ยอินทรีย์ทุก 3 เดือน
การใช้ประโยชน์ รับประทานผล